ถ้าท่านได้รับข้อความเหล่านี้ทางอีเมล์แต่ไม่เห็นวิดีโอคลิป เข้ามาดูที่ https://witpoko.com/ นะครับ (คราวที่แล้วเรื่องสมดุลของร่างกายและกลหลอกลวงชาวบ้านอยู่ที่นี่ เรื่องตาจากปีที่แล้วอยู่ที่นี่ครับ)
วันนี้เป็นวันแรกของปีการศึกษาใหม่ที่ผมได้ไปสอนเด็กๆที่โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิและกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมครับ วันนี้คุยกันเรื่องตาและภาพลวงตา
หอยงวงช้างและตาของมันที่เหมือนกล้องรูเข็ม |
จากนั้นผมก็บอกเด็กๆว่าส่วนที่สำคัญมากในการมองเห็นก็คือสมองที่ต้องคอยตีความว่าเห็นอะไร ถ้าสมองส่วนตีความเสีย คนก็จะตาบอดได้แม้ว่าดวงตาจะใช้ได้ดีอยู่ ในคนปกติสมองก็ยังมีจุดอ่อนในการมองเห็น มักจะเห็นอะไรที่อยากเห็นและไม่เห็นสิ่งที่ไม่สนใจ มีความสามารถจำกัดในการตีความ ถ้าข้อมูลเข้ามาจากดวงตามากเกินไป สมองก็จะเลือกตีความบางส่วนและเดาว่าส่วนอื่นๆเป็นอะไร ดังตัวอย่างภาพลวงตานี้ ถ้าเรามองจุดสีขาวตรงกลาง เราจะไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีรอบๆ ตอนที่วงสีรอบนอกหมุนไปด้วย ถ้าเราไม่มองจุดสีขาวตรงกลางและคอยมองตามจุดสี เราจะเห็นว่าจุดสีเปลี่ยนแปลงเวลาวงสีรอบนอกหมุนด้วย
จากนั้นผมก็ให้เด็กดูภาพลวงตาหอเอนพิซ่าดังรูปนี้:
คนส่วนใหญ่จะเห็นว่าภาพด้านขวาจะเอนมากกว่า ทั้งๆที่ภาพทั้งซ้ายและขวาเป็นภาพเดียวกัน ที่เราเห็นอย่างนี้ก็เพราะว่าสมองคิดว่าทั้งสองภาพรวมกันเป็นภาพของหอคอยสองอันคู่กัน และเมื่อเรามองหอคอยจริงๆตั้งคู่กันอยู่ เราจะเห็นยอดของมันลู่เข้าหากัน (เรื่อง perspective) เมื่อเราไม่เห็นมันลู่เข้าหากัน เราจึงคิดว่าหอคอยด้านขวาต้องเอียงอยู่แน่ๆ ปรากฏการณ์นี้แสดงถึงการที่สมองตีความหมายตามสมมุติฐาน(หรือโปรแกรม)ที่มีอยู่แล้วในสมอง ไม่ใช่เห็นในสิ่งที่เป็น (สำหรับผู้ที่สนใจ เข้าไปดูลิงค์ของนักวิจัยที่ http://www.scholarpedia.org/article/Leaning_tower_illusion ได้ครับ)
จากนั้นผมก็ให้เด็กๆดูภาพลวงตาที่แสดงว่าเราตัดสินความสว่างของสิ่งของต่างๆเมื่อเทียบกับความสว่างรอบๆ ภาพลวงตาอยู่ที่ http://illusioncontest.neuralcorrelate.com/2011/grouping-by-contrast/ เมื่อเรากดปุ่มเอาภาพพื้นหลังสีดำ/เหลืองออก เราจะเห็นวงกลมเปลี่ยนความสว่างแบบหนึ่ง แต่ถ้าเราแสดงพื้นหลังด้วย วงกลมจะเปลี่ยนความสว่างอีกแบบหนึ่ง ถ้าเราเจาะรูบนกระดาษเพื่อบังภาพหลัง เราก็จะเห็นว่าจริงๆแล้ววงกลมเปลี่ยนความสว่างอย่างไร:
จากนั้นผมก็แสดงภาพลวงตาว่าของโค้งๆที่ขนาดเท่ากัน ถ้าเอามาเรียงกันแล้วจะเห็นว่าอันหนึ่งยาวกว่า ของโค้งๆที่ว่าอาจจะเป็นกล้วยที่ขนาดเท่าๆกัน หรือตัดกระดาษแข็งให้เป็นรูปโค้งๆก็ได้ (วิธีทำง่ายๆก็คือเอาอะไรกลมๆเช่นถ้วย กระป๋อง แผ่น CD มาเป็นแบบวาดบนกระดาษ ลากสองเส้นโดยเลื่อนแบบห่างออกไปสักสองสามเซ็นติเมตรก็ได้) แล้วเอามาเรียงสลับกัน
จากนั้นเด็กๆก็ได้ตัดกระดาษทำของเล่นนี้กัน เพื่อเอาไปหลอกคุณพ่อคุณแม่ สำหรับเด็กเล็กที่ตัดกระดาษให้โค้งไม่ได้ เขาก็จะได้ตัดรูปหอเอน มาเล่นดูที่ละรูป และดูที่ละสองรูปคู่กัน
เยี่ยมมากเลยครับ
ขอบคุณครับครูป้อม 🙂