วิทย์ประถม: สังเกตข้อจำกัดการมองเห็นและการจำด้วยการทดลองต่างๆ

ผมไปทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆได้หัดคิดแบบวิทย์โดยพยายามอธิบายมายากล ได้เรียนรู้เรื่องข้อจำกัดในการมองเห็นและการมโนภาพต่างๆเมื่อข้อมูลทางสายตาไม่พอ ได้สังเกตว่าเมื่อเราสนใจบางสิ่งเราสามารถพลาดการรับรู้เรื่องอื่นๆได้มากมาย และบางครั้งเราไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในภาพต่างๆทั้งๆที่เราคิดว่าเราไม่น่าพลาด

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลเลื่อยไฟฟ้าตัดตัวครับ:

กิจกรรมหัดอธิบายมายากลนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

วันนี้เราทำการทดลองกันต่อว่าตาเราสามารถมองเห็นชัดๆได้เพียงบริเวณเล็กๆเท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นชัดได้ทั่วไปพร้อมๆกัน เราต้องกวาดตาไปมาเพื่อรับแสงจากที่ต่างๆแล้วให้สมองไปรวมเพื่อวาดภาพในหัวของเราให้เรารับรู้ได้

ภาพแรกคือให้ดูภาพนี้ ดูว่าวงกลมที่อยู่ตรงที่เส้นตรงตัดกันมีสีอะไร ถ้าเราเพ่งดูแต่ละวงกลม เราจะเห็นว่ามันมีสีขาว แต่วงกลมอื่นๆที่ห่างไปจากจุดที่เรามองจะเปลี่ยนสีไปมาระหว่างดำและขาว สีที่เปลี่ยนนั้นคือสีที่สมองมโนขึ้นมาว่าควรจะเป็นสีอะไร ถ้าเราย้ายตาไปมองชัดๆมันจะเป็นสีขาวอย่างที่เป็นจริง (ถ้าขยายให้ภาพใหญ่จะเห็นปรากฎการณ์นี้ชัดขึ้น):

อีกการทดลองหนึ่งคือให้นับว่ามีจุดดำกี่จุดในภาพ ถ้ากวาดตาไปเรื่อยๆจะเห็นว่ามี 12 จุดดำ แต่เราจะไม่สามารถเห็นมันพร้อมๆกันทั้งหมดได้ (ถ้าขยายให้ภาพใหญ่จะเห็นปรากฎการณ์นี้ชัดขึ้น, ภาพมาจากคลิปนี้: https://youtu.be/v6CwmHtFO_M):

ต่อไปเราดูคลิปนี้กัน เมื่อเราจ้องมองกากบาทตรงกลางภาพ หน้าคนบริเวณข้างๆของภาพจะไม่ค่อยชัด และเมื่อมองหน้าตาไม่ชัด สมองก็วาดรูปหน้าตามใจ ทำให้ดูเหมือนสัตว์ประหลาด:

ต่อไปเราดูคลิปนี้ดูว่าทีมเสื้อขาวส่งลูกบอลกันกี่ครั้ง:

เราจะพบว่าหลายๆคนจะพลาดสิ่งประหลาดๆหลายอย่างในคลิปเมื่อต้องตั้งใจจดจ่อนับการส่งลูกบอล แสดงว่าความสามารถในการประมวลผลข้อมูลเข้าสมองของเราจำกัด

อีกคลิปที่เราดูกันคือเราพลาดการเปลี่ยนแปลงต่างๆในรูปที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเรา เพียงแค่มีไฟกระพริบความจำรูปภาพระยะสั้นของเราก็หายไปแล้ว:

ด้วยเวลาที่เหลือ เราดูการเล่นกลและการเฉลยของนักมายากลชื่อดังของโลก Penn & Teller เด็กๆชอบมาก ตบมือกันตอนจบด้วย:

สำหรับเด็กประถมปลาย ผมแนะนำให้ลองเล่นเว็บไซต์ที่ให้เราวาดรูปด้วย AI กัน เช่นไปดูรายชื่อต่างๆในลิงก์ 7 เว็บไซต์ วาดรูปด้วย AI ในปี 2023 สร้างงานศิลปะขั้นเทพ ง่ายๆแค่ปลายนิ้ว! หรือเว็บที่ให้เราออกแบบท่าทางโพสของคนแล้ววาดรูปให้เช่น https://plask.ai/ หรือแอปวาดรูปเช่น Draw Things:

เล่นได้ที่ https://plask.ai/

วิทย์ประถม: เปิดเทอมใหม่ด้วยภาพลวงตา

ผมไปทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆหัดคิดแบบวิทยาศาสตร์โดยพยายามอธิบายมายากล ผมเล่าให้เด็กๆฟังว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารับรู้เกิดจากสมองแปลความสัญญาณไฟฟ้าที่รับมาจากประสาทสัมผัสทั้งหลาย เช่นภาพต่างๆที่เราเห็นก็เกิดจากสมองวาดขึ้นมาจากสัญญาณไฟฟ้าจากประสาทตา สมองถูกหลอกและหลอกตัวเองได้ง่ายกว่าที่เราคิด เราดูตัวอย่างการที่สมองถูกหลอกโดยภาพลวงตาต่างๆกัน

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลนักดนตรีหายไปครับ:

กิจกรรมหัดอธิบายมายากลนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

ผมเล่าให้เด็กๆฟังว่าการรับรู้ต่างๆของเรา เราเห็นอะไร เราได้ยินอะไร เรารับรสชาติอะไร เราได้กลิ่นอะไร เราสัมผัสอะไร ต่างเกิดจากการที่สมองตีความสัญญาณไฟฟ้าที่วิ่งมาตามเส้นประสาทที่เชื่อมกับอวัยวะในร่างกาย การตีความนี้มีประโยชน์ทำให้พวกเรามีชีวิตอยู่ได้ในโลก เรามักจะเข้าใจผิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารับรู้มีความถูกต้องตรงกับความเป็นจริง แต่เราอาจตีความผิด รับรู้ผิดๆ จำผิดๆ และเข้าใจอะไรผิดๆก็ได้ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังว่าเรารับรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆอย่างไร

วันนี้เราใช้ตัวอย่างภาพลวงตาต่างๆมาแสดงว่าเราเข้าใจผิดหรือรับรู้ผิดได้ง่ายๆอย่างไร

ผมใช้ตัวอย่างจากเว็บ Illusion Index ตัวอย่างแรกคือความยาวของเส้นที่ปลายไม่เหมือนกัน (Müller-Lyer) ดูเหมือนยาวไม่เท่ากัน แต่ถ้าเอาไม้บรรทัดวัดจะพบว่ายาวเท่ากัน:

อีกอันคือเมื่อเราเห็นลวดลายเคลื่อนไหวนานๆแล้วเราไปมองภาพนิ่ง (หรือหน้าคน) เราจะเห็นการเคลื่อนไหวในภาพนิ่งนั้น ภาพลวงตานี้เรียกว่า Waterfall Illusion สามารถเข้าไปเล่นในลิงก์นี้ได้ครับ: https://www.illusionsindex.org/ir/79-waterfall-illusion หน้าตามันจะเป็นประมาณนี้:

ภาพลวงตาอันต่อไปคือเมื่อเราจ้องมองอะไรนานๆสิ่งนั้นหายไป เราจะเห็นเงาของสิ่งนั้นเหลืออยู่ เงาในที่นี้ไม่ใช่เงาดำๆ แต่มีสีตรงข้ามกับสิ่งที่เราจ้องตอนต้น ภาพลวงตาแบบนี้เรียกว่า Negative Afterimages เข้าไปเล่นในลิงก์นี้ครับ: https://www.illusionsindex.org/ir/21-negative-afterimages หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ ให้จ้องจุดดำตรงกลางไว้นะครับ:

เรื่องสีที่เปลี่ยน หรือแม้แต่ทำให้ภาพขาวดำดูมีสีขึ้นมาได้ ผมเคยบันทึกไว้ที่ “ภาพขาวดำกลายเป็นสี! แบบจำลองตา ตัวอย่างประโยชน์คณิต กลไฟฟ้าสถิต” เชิญผู้สนใจเข้าไปดูนะครับ

ต่อไปผมให้เด็กๆดูภาพลวงตาบันได ให้ดูว่าบันไดขั้นไหนเป็นขั้นที่สูงสุด ขั้นไหนต่ำสุด บันไดนี้เรียกว่า Penrose Stairs อยู่ที่ลิงก์นี้: https://www.illusionsindex.org/i/50-penrose-stairs

ถ้าลองไล่ไปเรื่อยๆเราจะไม่พบบันไดขั้นที่สูงที่สุดหรือต่ำที่สุด การมองเห็นของตาเราจะชัดในบริเวณจำกัดที่เล็กมาก เราต้องกวาดสายตาไล่ไปเรื่อยๆ เราจะไม่ค่อยเห็นรายละเอียดรอบๆที่ห่างจากจุดที่เราจ้องอยู่ ดังนั้นจึงมีภาพลวงตาที่อาศัยการเคลื่อนไหวตาเพื่อโฟกัสทีละบริเวณเช่นภาพข้างบนครับ

มีภาพลวงตาทำนองนี้มากมาย ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้:

Shepard elephant poster.jpg
Fair use, Link

Poiuyt-pseudo-backgrounds.svg
By AnonMoos – This <a href=”https://en.wikipedia.org/wiki/vector_image” class=”extiw” title=”w:vector image”>vector image</a> includes elements that have been taken or adapted from this file:, Public Domain, Link

จำนวนแท่งสี่เหลี่ยมเปลี่ยนไปขึ้นกับว่าเรามองด้านบนหรือด้านล่างของภาพครับ แสดงว่าตาเราเห็นได้ชัดๆในบริเวณเล็กๆเท่านั้น ไม่สามารถเห็นภาพใหญ่ภาพรวมพร้อมๆกันได้ ปกติตาเราจะต้องขยับไปมาเพื่อดูภาพใหญ่ตลอดครับ

ผมแนะนำให้เด็กๆรู้จักกับงานของศิลปิน M.C. Escher เช่นภาพน้ำตกที่เป็นไปไม่ได้:

เด็กๆได้ดูว่าเส้นขนานกันไหม (ขนานครับ ต้องเอาไม้บรรทัดมาเทียบ, ภาพจากเว็บ Quirkology):

ได้ทดลองดูว่าวัตถุโค้งๆอันไหนยาวกว่ากันครับ เนื่องจากไม่ได้ถ่ายวิดีโอไว้ ขอเอาคลิปที่ถ่ายทำกับเด็กจิ๋วมาให้ดูแทนนะครับ:

ถ้าอยากลองเล่นเองที่บ้านลองตัดตามแบบข้างล่างนี้ก็ได้ครับ:

แบบตัดกระดาษเพื่อดูว่าอันไหนยาวกว่ากันครับ

ผมแจกรูปโต๊ะสองตัวให้เด็กๆไปดูว่าอันไหนยาวกว่า และถ้าวัดแล้วเปรียบเทียบเป็นอย่างไรครับ:

อันนี้คลิปโต๊ะลวงตาครับ:

วิทย์ประถม: รู้จักจรวด เล่นจรวดไม้ขีดไฟ

ผมไปทำกิจกรรมวิทย์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมครับ เด็กๆได้หัดคิดแบบวิทยาศาสตร์โดยพยายามอธิบายมายากล เราได้คุยกันเรื่องจรวด จรวดเชื้อเพลิงเหลว จรวดเชื้อเพลิงแข็ง ได้ดูคลิปการลงจอดของจรวดจากสเปซเอ็กซ์ แล้วเราก็เล่นจรวดไม้ขีดไฟกัน

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลไพ่ครับ:

กิจกรรมหัดอธิบายมายากลนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

ผมให้เด็กๆดูคลิปการเคลื่อนที่ของจรวดต่างๆ:

ผมเล่าให้เด็กๆฟังว่าจรวดทำงานอย่างไรโดยถามว่าเด็กๆเคยส่งลูกบาสเก็ตบอลเร็วๆไหม จะรู้สึกว่าตัวเราขยับไปทิศทางตรงข้ามกับลูกบาส จรวดก็ทำงานคล้ายๆกัน เชื้อเพลิงจรวดเป็นเชื้อเพลิงแข็งหรือเชื้อเพลิงเหลว เมื่อเผาไหม้ที่ท้ายจรวดกลายเป็นก๊าซที่มีปริมาตรและความเร็วมหาศาล วิ่งออกจากท้ายจรวดไปเหมือนเราผลักลูกบาส ตัวจรวดที่เหลือจึงขยับไปทิศทางตรงข้ามกับก๊าซร้อนจากเชื้อเพลิง

จรวดเชื้อเพลิงเหลวสามารถเปิดปิดการเผาไหม้ได้ แต่ต้องมีระบบควบคุม ระบบปั๊ม จรวดเชื้อเพลิงแข็งจุดเผาไหม้ได้ครั้งเดียวแล้วเชื้อเพลิงจะเผาไหม้จนหมด

ในคลิปข้างบนจะเห็นทั้งจรวดเชื้อเพลิงเหลวและเชื้อเพลิงแข็ง จรวดเชื้อเพลิงเหลวจะมีถังออกซิเจน (สีฟ้า) และถังเชื้อเพลิง (สีเหลืองหรือสีแดง) จรวดเชื้อเพลิงแข็งจะเป็นท่อตรงๆที่มีรูปไฟเผาไหม้ตลอดลำจรวด

ผมให้ดูคลิปการทำงานของจรวดเชื้อเพลิงแข็ง:

จากนั้นผมก็ให้เด็กดูคลิปการปล่อยจรวดและเอาชิ้นส่วนถังเชื้อเพลิงกลับมาใช้ไหม่:

แล้วเราก็ทำของเล่นจรวดไม้ขีดไฟกัน วิธีทำดังในคลิปนี้ครับ:

เด็กๆแยกย้ายกันประดิษฐ์มาให้ผมจุดให้ครับ

บันทึกกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่คุณครูเอาไปประยุกต์เล่นกับเด็กๆเยอะๆครับ :-)