วิทย์ประถม: เครื่องยิงที่ใช้อากาศหรือแก๊ส

ผมไปทำกิจกรรมวิทย์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆได้หัดคิดแบบวิทย์โดยพยายามอธิบายมายากล ได้ดูตัวอย่างการหลอกลวงในวัด ผมได้อธิบายหลักการทำงานของปืน Nerf, ปีนคาบศิลา, ปืนยุคใหม่ใช้กระสุน, และการเป่าลูกดอก เด็กๆได้เล่นเป่าก้านสำลีจากหลอดกัน

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลหญิงหายตัวครับ:

กิจกรรมนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

ผมอธิบายการทำงานของเครื่องยิงชนิดต่างๆที่อาศัยอากาศหรือแก๊สประเภทต่างๆขับดันกระสุนให้เคลื่อนที่ไปที่เป้าหมาย เริ่มด้วยปืนของเล่น Nerf:

ให้เด็กๆสังเกตลูกสูบปั๊มลมที่ทำหน้าที่เหมือนหลอดฉีดยาในของเล่นจรวดแรงดันอากาศที่เราเคยเล่นกัน ให้สังเกตสปริงที่ทำหน้าที่ดันลูกสูบผลักดันอากาศให้ดันกระสุนโฟมออกไป

จากนั้นผมอธิบายการทำงานของปืนคาบศิลา:

ให้เด็กๆสังเกตว่าดินปืนที่เป็นของแข็งจะถูกจุดไฟด้วยชนวน (แก๊ป หรือไพรเมอร์ ที่คล้ายๆของเล่นกระเทียมที่เราขว้างลงพื้นแล้วดังแป๊ะๆ) ดินปืนเผาไหม้สร้างแก๊สจำนวนมากผลักดันกระสุนออกไปจากลำกล้อง

เล่าให้เด็กๆฟังว่าปืนประเภทนี้ลำกล้องจะไม่มีเกลียว มีขนาดใหญ่กว่ากระสุนเล็กน้อย ทำให้กระสุนชนผนังไปมาก่อนจะพ้นลำกล้องได้ ทำให้มีข้อจำกัดด้านความแม่นยำ นอกจากนี้ยังใช้เวลายิงนัดต่อไปนานอีกด้วยเพราะมีหลายขั้นตอนกว่าจะยิงได้แต่ละนัด

มนุษย์พยายามแก้ปัญหานี้โดยการสร้างกระสุนปืนสำเร็จรูปที่รวมหัวกระสุน ดินปืน ไพรเมอร์ไว้ด้วยกัน ทำให้ยิงได้ต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่ลำกล้องมีเกลียวบังคับให้หัวกระสุนหมุนทำให้แม่นยำมากขึ้นด้วย ดังในคลิปเหล่านี้:

หลังจากเข้าใจทฤษฎีการทำงาน และเนื่องจากเราเล่นปืนไม่ได้ เราเลยใช้ลมหายใจของเราเป่าไม้พันสำลีผ่านหลอดกาแฟใส่เป้าต่างๆแทน 😃

วิทย์ประถม: ปรับปรุงแหลนจำลอง

ผมไปทำกิจกรรมวิทย์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆได้หัดคิดแบบวิทยาศาสตร์โดยพยายามอธิบายมายากล จากนั้นได้พยายามปรับปรุงแหลนจำลองจากสัปดาห์ที่แล้วให้ขว้างได้ไกลขึ้นโดยการเพิ่มน้ำหนักส่วนหัวและทำครีบส่วนหางให้ขว้างได้ตรงและไกลมากขึ้น

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลน้ำไม่หกจากแก้วซึ่งทำเนียนกว่าที่เราเคยเล่นกันในชั้นเรียน:

กิจกรรมนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

สัปดาห์นี้เราต่อยอดจากสัปดาห์ที่แล้ว (วิทย์ประถม: ขว้างหลอดไกลๆ, จำลองแหลน) โดยการถ่วงน้ำหนักหลอดด้วยกระดาษที่ม้วนแน่นๆแล้วใส่ไว้ที่ปลายด้านหนึ่งของหลอด และดัดแปลงส่วนหางให้มีครีบให้มีต้านอากาศบ้างให้ตัวหลอดไม่สั่นหรือส่ายเกินไป น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้แรงต้านอากาศมีผลน้อยลงทำให้หลอดโดนปาไปได้ไกลขึ้นครับ (คือหลอดที่มีขนาดเหมือนกัน วิ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วเดียวกัน จะมีแรงต้านอากาศเท่าๆกัน แต่หลอดที่หนักกว่าจะสูญเสียความเร็วช้ากว่าหลอดที่เบา จึงวิ่งไปไห้ไกลกว่าครับ)

เด็กๆหัดทำกันเองคนละหลายๆอัน เด็กประถมต้นมีปัญหาการม้วนกระดาษให้เป็นม้วนเล็กๆใส่ไว้ในหลอด ผู้ใหญ่อาจต้องช่วยบ้างครับ

วิทย์ประถม: ขว้างหลอดไกลๆ, จำลองแหลน

ผมไปทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆได้หัดคิดแบบวิทยาศาสตร์โดยพยายามอธิบายมายากล และเนื่องจากองค์นี้เด็กๆจะเรียนเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เราจึงจะทำกิจกรรมจำลองอาวุธตั้งแต่ยุคโบราณมาถึงปัจจุบัน แล้วคุยกันว่ามันทำงานอย่างไร คราวนี้เราจำลองแหลนด้วยหลอดพลาสติกกัน

(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)

ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้มีผู้หญิงอยู่ในกล่องสลับไปมา:

กิจกรรมนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ

ผมเล่าให้เด็กๆฟังว่าการแข่งขันกรีฑาทั้งลู่และลานเป็นการทดสอบทักษะของนักรบสมัยโบราณ การขว้างทั้งหลายเช่นทุ่มน้ำหนัก ขว้างจักร หรือพุ่งแหลน ต่างก็เป็นทักษะที่ใช้ในสงครามสมัยโบราณทั้งนั้น การแข่งขันขว้างแหลนในยุคปัจจุบันสถิติโลกอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยเมตร และให้เด็กๆดูตัวอย่างนี้ครับ:

เราจะจำลองแหลนสำหรับขว้างกันในห้องด้วยหลอดกาแฟครับ ผมเอาหลอดกาแฟพลาสติกมาพยายามโยนให้ไกลๆให้ตรงกับเป้าครับ หลอดกาแฟมันเบาจึงเปลี่ยนทิศทางง่ายและถูกอากาศต้านทำให้ไปไม่ได้ไกล เราทดลองพันเทปผ้าเพื่อถ่วงน้ำหนักที่จุดต่างๆของหลอด และพบว่าถ้าพันที่ปลายด้านหน้า เราจะปาได้ไกลและตรงพอสมควร ให้เด็กๆสังเกตว่าถ้าจะปาให้ไกลๆเราต้องขว้างให้พุ่งขึ้นบ้าง ถ้าขว้างตรงๆในแนวระดับจะปาไม่ได้ไกล จากนั้นเด็กๆก็ปาใส่กระป๋องที่วางเป็นเป้ากันครับ:

วันนี้เราเล่นกันเยอะๆก่อนครับ ในครั้งต่อๆไปเราจะเริ่มดัดแปลงและเปรียบเทียบของเล่นนี้เพื่อเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร

บันทึกกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่คุณครูเอาไปประยุกต์เล่นกับเด็กๆเยอะๆครับ :-)