คุยกันต่อเรื่องตา แบบจำลองตา การสะท้อนและหักเหของแสง

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “เริ่มเรียนเรื่องตา การทดลองลูกบอลตก และหลอดกระดาษจอมพลัง” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมและกลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น  วันนี้เด็กประถมต้นได้ส่งการบ้านวาดรูปส่วนประกอบตา ดูวิดีโอจำลองการมองเห็นของสัตว์ต่างๆ (เหยี่ยว แมว หมา ผึ้ง หนู) ได้เห็นว่าภาพเกิดที่จอรับภาพด้านในหลังตาเกิดอย่างไร (เป็นภาพกลับหัว) โดยดูจากอุปกรณ์จำลองทำจากโคมกระดาษ แว่นขยาย และถุงก๊อบแก๊บ ได้เห็นภาพสิ่งประดิษฐ์ประมาณแปดสิบปีมาแล้วเพื่อช่วยฟังหาเครื่องบิน ส่วนเด็กประถมปลายได้ดูการสะท้อนแสงเลเซอร์ และได้เข้าใจว่ามุมการสะท้อนแสงมีความสัมพันธ์อย่างไร (มุมตก = มุมสะท้อน) ได้รู้จักจานสะท้อนแบบพาราโบลิค ได้รู้จักดาวเทียมแบบที่โคจรไปพร้อมๆกับโลกหมุน (Geosynchronous orbit) ได้เห็นการหักเหของแสงผ่านปริซึม และเมื่อแสงผ่านอากาศไปแก้วไปน้ำ ได้เห็นว่าแสงสีต่างๆกันหักเหไม่เท่ากัน ทำให้เราเห็นสีรุ้งได้ เด็กๆทั้งสองระดับชั้นได้ดูคลิปการยกและเคลื่อนย้ายสิ่งของเล็กๆด้วยคลื่นเสียงด้วยครับ

สำหรับเด็กประถมต้น ก่อนอื่นเด็กๆส่งการบ้านที่ให้ไปวาดรูปส่วนประกอบต่างๆของตาครับ เด็กๆไปหาดูรูปในอินเตอร์เน็ตและวาดตามได้ จากนั้นผมก็นอกเรื่องให้เด็กๆดูคลิปวิดีโอนี้แล้วให้เด็กๆเดาว่าคืออะไรครับ:

เด็กๆดูสองรอบแล้วก็เริ่มเดาได้ครับว่าเป็นการใช้คลื่นเสียงยกและขยับสิ่ง ของเล็กๆไปมา ผมอธิบายเพิ่มว่านักประดิษฐ์เขาส่งคลื่นเสียงจากหลายๆลำโพงเข้าจนเกิดเป็นคลื่นนิ่ง (Standing Wave) ส่วนตรงกลางที่วัตถุลอยอยู่จะเป็นส่วนที่อากาศสั่นน้อยหรือไม่สั่นขณะที่ รอบๆมีการสั่นของอากาศเยอะ ทำให้วัตถุลอยอยู่ในบริเวณที่อากาศไม่ค่อยสั่น

ต่อจากนั้นเด็กๆก็ได้ดูวิดีโออีกอัน โดยผมเริ่มให้ดูตอนเวลา 1:24 นาทีจนจบก่อน แล้วให้เด็กๆเดาว่าคืออะไร:

มีเด็กบางคนเดาว่าน่าจะเป็นรังมดซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตกลงมันคือวิธีการที่นักวิทยาศาสตร์ไปสำรวจรังมด (ที่เขาบอกว่าเป็นรังร้าง) โดยเทปูนซีเมนต์เหลวๆลงไปหลายตัน รอให้ปูนแข็งตัว แล้วขุดดูว่ารังมดมีลักษณะอย่างไร รังนี้อลังการมากครับ Continue reading คุยกันต่อเรื่องตา แบบจำลองตา การสะท้อนและหักเหของแสง

เริ่มเรียนเรื่องตา การทดลองลูกบอลตก และหลอดกระดาษจอมพลัง

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “เรียนเรื่องเสียงต่อ ใช้โปรแกรม Tracker เล่นบูมเมอแรงกระดาษ” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้สำหรับเด็กอนุบาลสาม ผมเอากระดาษ A4 มาม้วนเป็นทรงกระบอกแล้วใช้เป็นขาตั้งรับน้ำหนักมากๆเช่นโต๊ะไม้ทั้งตัวครับ สำหรับเด็กประถมต้น เราเริ่มเรียนเรื่องตากัน โดยสังเกตตาของตัวเองและเพื่อนๆ นับขนตา (ได้ข้างละร้อย-ร้อยกว่าเส้นต่อหนึ่งตา รวมขนตาบนและขนตาล่าง) ได้ดูรูรับแสง (pupil) ที่เป็นรูกลมให้แสงเข้าไปในตาได้ รวมถึงอธิบายว่าทำไมถ่ายภาพมีแฟลชในที่แสงน้อยๆตาเราจึงแดงและผู้ผลิตกล้องทำอย่างไรถึงลดตาแดงได้ สำหรับเด็กประถมปลายเราถ่ายภาพการตกของลูกบาสและลูกเทนนิสแล้วมาเปิดดูทีละเฟรมด้วยโปรแกรม Tracker กัน ได้เรียนรู้ว่าถ้าไม่มีแรงต้านอากาศ ของต่างๆจะตกลงมาเหมือนๆกันโดยดูวิดีโอลูกบอลเหล็กและขนนกในโหลแก้วที่สูบอากาศออก และได้ฟังคำอธิบายจากกฎแรงโน้มถ่วงและกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น นอกจากนี้เด็กๆประถมปลายยังได้ดูตัวอย่างการเริ่มต้นธุรกิจบน Kickstarter.com โดยเราดูปืนกลหนังยางและปากกาแม่เหล็กกันครับ

สำหรับเด็กอนุบาล ผมเอากระดาษ A4 มาม้วนเป็นท่อทรงกระบอกให้แน่นๆ แล้วเอาเทปกาวติดสามแห่งที่ปลายทั้งสองข้างและตรงกลางไม่ให้กระดาษคลายตัว จากนั้นผมก็เอากระดานแข็งพาดไว้ให้หลอดกระดาษสามหลอดเป็นขาตั้ง แล้วเอาของหนักๆไปวางให้เด็กๆลุ้นกันว่าจะวางไว้ได้ไหมกันครับ

เราสามารถวางกล่องสีหนักๆรวมกับเบาะนั่งหลายอันได้ สามารถเอาโต๊ะไม้หนักๆที่เด็กๆใช้วาดรูปมาวางก็ได้ แต่เมื่อจะเอาโต๊ะไม้สองตัววางขาตั้งกระดาษก็ล้มลงครับ ปกติกระดาษ A4 หนึ่งแผ่นที่ม้วนเป็นทรงกระบอกแน่นๆจะรับน้ำหนักกดในแนวตั้งได้อย่างน้อย 5 กิโลกรัมครับ สามกระบอกก็รับได้ 15 กิโลกรัมถ้าเราวางน้ำหนักดีๆไม่ให้เอียงแล้วล้มพับไปทางใดทางหนึ่ง

วางสี
วางสี+เบาะนั่ง
พยายามวางโต๊ะ
สำเร็จ!

 ผมเคยถ่ายทำวิดีโอการเล่นแบบนี้ไว้เมื่อหลายปีมาแล้วครับ: Continue reading เริ่มเรียนเรื่องตา การทดลองลูกบอลตก และหลอดกระดาษจอมพลัง

เรียนเรื่องเสียงต่อ ใช้โปรแกรม Tracker เล่นบูมเมอแรงกระดาษ

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “อะไรๆก็ประหลาดในอวกาศ จรวดทำงานอย่างไร กลตั้งไข่ กลตั้งกระป๋องเครื่องดื่ม” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เด็กอนุบาลสามได้เล่นบูมเมอแรงกระดาษสองแบบ (แบบตัว L และ X) เด็กประถมต้นได้เรียนเรื่องเสียงต่อ ได้เห็นกระดาษกระเพื่อมจากคลื่นเสียงที่ออกจากลำโพง ได้เห็นว่าลำโพงและไมโครโฟนทำงานอย่างไร ได้อัดเสียงและดูภาพคลื่นเสียงที่อัดไว้ และได้เล่น Glass Harp (แก้วกำทอนหรือแก้วไวน์ร้องเพลง) ส่วนเด็กประถมปลายได้เห็นการใช้โปรแกรมฟรีที่เรียกว่า Tracker วัดตำแหน่งของลูกบาสตกกระเด้งบนพื้น ผมดีใจมากที่เด็กๆบางคนเข้าใจได้เองว่าถ้าดู “ความชัน” ของกราฟตำแหน่งของลูกบอลเทียบกับเวลาจะรู้ว่าเป็นความเร็วที่ลูกบอลเคลื่อนที่ (เด็กๆเรียก “ความชัน” หรือ “slope” ว่า “ความเอียง” ครับ)

สำหรับเด็กอนุบาลสามวันนี้ ผมตัดกระดาษแข็งจากโปสการ์ดและโบรชัวร์เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 1″ x 6″-9″ ให้เท่ากันสองอัน แล้วมาต่อกันเป็นรูปตัว L หรือตัว X (กากบาท) ทำให้ติดกันด้วยลวดเย็บกระดาษครับ จากนั้นก็ทำการปล่อย สำหรับแบบตัว L เราวางไว้บนมือเราหรือหนังสือเรียบๆให้ขาข้างหนึ่งยื่นออกมา แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งดีดหรือตีขาที่ยื่นออกมาให้วิ่งไปข้างหน้าตรงๆ บูมเมอแรงจะหมุนๆแล้ววนกลับมาหาเราครับ หน้าตาของบูมเมอแรงที่ทำเสร็จจะหน้าตาแบบนี้ครับ:

นี่เป็นคลิปการทำบูมเมอแรงแบบตัว L ที่ผมบันทึกไว้นานแล้วครับ ทำทำนองนี้แหละครับ:

สำหรับแบบตัว X ให้เราจับขาข้างหนึ่ง ให้ตัวบูมเมอแรงตั้งเป็นมุมประมาณ 45 องศากับแนวดิ่งแล้วสะบัดข้อมือออกไปให้บูมเมอแรงหมุนๆครับ ถ้าขว้างได้พอเหมาะมันจะหมุนๆแล้ววนกลับมาทำนองนี้ครับ: Continue reading เรียนเรื่องเสียงต่อ ใช้โปรแกรม Tracker เล่นบูมเมอแรงกระดาษ

บันทึกกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่คุณครูเอาไปประยุกต์เล่นกับเด็กๆเยอะๆครับ :-)