วันนี้เด็กๆมัธยมต้นเรียนเรื่อง hedonic treadmill จากหนังสือ The Art of Thinking Clearly โดยคุณ Rolf Dobelli ที่เรามักจะเคยชินกับความสุข (หรือความทุกข์) ของเราเมื่อเวลาผ่านไป เช่นเราจะมีความสุขชั่วคราวกับของใหม่ที่ซื้อมา เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น หรือถูกล็อตเตอรี่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราก็จะรู้สึกเฉยๆกับมันและอยากได้อะไรใหม่ๆอีก
ต่อจากนั้นผมก็แนะนำหนังสือ Origin Story โดย David Christian เพื่อให้เด็กๆอ่านไปเรื่อยๆเป็นการเพิ่มความรู้รอบตัวครับ เนื้อหาจะเป็นรายละเอียดเพิ่มเติมจากโครงที่ถูกนำเสนอในคลิปนี้:
ต่อจากนั้นเราก็ทำความรู้จักกับ Coanda effect คือการที่ของไหลเช่นน้ำหรือสายลมชอบวิ่งไปผิวเรียบๆของวัตถุ ถ้าวัตถุมีลักษณะโค้งๆคล้ายผิวลูกโป่ง สายน้ำหรือสายลมก็จะวิ่งโค้งไปตามผิวและวัตถุก็จะถูกดูดเข้าสู่สายน้ำหรือสายลมด้วย
ถ้าสายลมแรงพอ เช่นออกมาจากเครื่องอัดลมความดันสูง แรงลมสามารถ “คีบ” ไขควงให้ลอยอยู่ได้ด้วยครับ:
ในอดีตผมเคยอัดคลิปการเล่นประมาณนี้ไว้ที่ช่องเด็กจิ๋ว & ดร.โก้ด้วยครับ เด็กๆอาจจะชอบดู:
เด็กๆได้ทดลองเอาลูกโป่งไปติดกับสายน้ำจากก๊อกให้รู้สึกถึงแรงที่กดและดูดลูกโป่งโดยสายน้ำครับ:
จากนั้นเราก็เอาพัดลมเป่าลมชึ้นจากพื้น แล้วเอาลูกโป่งไปวางข้างบน ให้สายลมวิ่งรอบๆลูกโป่งและทำการ “คีบ” มันไว้ครับ ลักษณะสายลมที่วิ่งรอบๆลูกโป่งจะมีหน้าตาประมาณนี้ ทำโดยเอาเชือกฟางมาฉีกให้เป็นเส้นเล็กๆแล้วไปติดหน้าพัดลมครับ:
พอเข้าใจปรากฎการณ์นี้แล้วเราก็เล่นสมรภูมิลูกโป่งกันครับ เอาพัดลมมาตั้งใกล้ๆกันสามตัว แล้วเด็กๆเป่าลูกโป่งขนาดต่างๆกัน มีการตกแต่งด้วยกระดาษ หรือถ่วงน้ำหนักด้วยคลิปหนีบกระดาษ แล้วปล่อยให้มันลอยชนกัน ดูว่าใครอยู่ได้นานที่สุดกันครับ:
ให้เด็กๆสังเกตดูครับว่าขนาดมีผลอย่างไรกับการลอย การติดกระดาษเข้าไปทำให้เกิดอะไรขึ้น การถ่วงน้ำหนักทำให้เกิดอะไรขึ้น
ภาพบรรยากาศกิจกรรมวันนี้อยู่ที่ลิงก์นี้นะครับ