(คราวที่แล้วเรื่อง แรงกดและลูกโป่งดูดน้ำอยู่ที่นี่ครับ)
ผมได้เข้าไปทำการทดลองวิทยาศาสตร์กับเด็กๆประถมกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมและเด็กๆอนุบาลสองและสามโรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยภูมิอีกครั้งเมื่อวันอังคารครับ คราวนี้เด็กๆได้รู้จักเครื่องทุ่นแรงประเภทรอกที่ทำให้เด็กๆสามารถยกของหนักๆและต่อสู้กับยักษ์อย่างผมได้ครับ
วิธีทดลองก็ง่ายๆ เอาท่ออะไรแข็งๆหรือด้ามไม้กวาดมาสองอัน เอาเชือกที่แข็งแรงหน่อย (เช่นเชือกไนลอน) มาผูกท่ออันที่หนึ่งไว้ แล้วเอาเชือกมาอ้อมท่ออันที่สอง แล้ววกกลับไปอ้อมท่อที่หนึ่งอีกครั้ง (ตอนนี้เชือกจะดูเหมือนตัว N) คราวนี้ถ้าดึงปลายเชือก เชือกจะดึงให้ท่อทั้งสองวิ่งเข้าหากัน ถ้าเราเอาท่ออันที่หนึ่งพาดกับคานหรือโต๊ะไว้สูงๆ แล้วเอาน้ำหนักถ่วงท่อที่สอง เราสามารถดึงเชือกเพื่อยกน้ำหนักขึ้นได้โดยใช้แรงประมาณครึ่งเดียวของน้ำหนักเท่านั้น แต่เราต้องดึงเชือกยาวเป็นประมาณสองเท่าของความสูงที่ยกน้ำหนักขึ้นไป
ถ้าเราต้องการทุ่นแรงมากขึ้น เราก็เอาเชือกอ้อมท่อทั้งสองอีก ถ้าอ้อมสองครั้ง (เชือกจะดูเหมือนตัว W) เราจะทุ่นแรงไปประมาณสี่เท่า แต่เราต้องดึงเชือกยาวเป็นประมาณสี่เท่าของความสูงที่ยกน้ำหนักขึ้นไป
เนื่องจากเชือกมีความฝืด เราจึงไม่สามารถอ้อมได้มากครั้งนัก ด้วยเหตุนี้รอกที่ใช้ในอุตสาหกรรมจึงเป็นลูกล้อให้เชือกพาดผ่านเพื่อเราจะได้ไม่ต้องสู้กับความฝืด เราจะได้ไม่ต้องออกแรงมากเกินความจำเป็น
จากนั้นผมก็ให้เด็กๆทดลองใช้รอกดึงเพื่อนสองคนเข้าหากัน และทดลองออกแรงต้านกับน้ำหนักของผม
สำหรับเด็กอนุบาลผมให้เด็กๆใช้รอกสู้กับแรงผม โดยผมจะพยายามดึงท่อทั้งสองออกจากกันแต่เด็กๆจะดึงปลายเชือกให้ท่อชิดกัน ก่อนจะดึงเชือกเด็กจะพยายามขยับแขนผมด้วยมือเปล่าก่อน ซึ่งเด็กๆจะไม่ค่อยมีแรงพอ จากนั้นเด็กๆก็จะใช้รอกจัดการผม ผลเป็นอย่างในวิดีโอข้างล่างครับ