ผมไปทำกิจกรรมวิทย์กับเด็กประถมศูนย์การเรียนปฐมธรรมมาครับ เด็กๆหัดคิดแบบวิทยาศาสตร์โดยพยายามอธิบายมายากล เราสังเกตการไหลของอากาศและน้ำที่จะไหลไปตามผิวเรียบๆ และถ้าผิวโค้งเราจะทำให้ทิศทางการไหลเลี้ยวไปตามผิวได้ เราทดลองโดยการเป่าลมให้เทียนดับโดยใช้ภาชนะต่างๆมาขวางกั้นไว้
(อัลบั้มบรรยากาศกิจกรรมอยู่ที่นี่ ส่วนลิงก์รวมทุกกิจกรรมอยู่ที่นี่นะครับ)
ก่อนอื่นเด็กๆได้ดูมายากลในคลิปนี้ครับ เด็กๆดูกลก่อนแล้วพยายามอธิบายก่อนเฉลย คราวนี้เป็นกลเสกฝาขวดเข้าขวดครับ:
กิจกรรมหัดอธิบายมายากลนี้ฝีกเด็กๆให้คิดแบบวิทยาศาสตร์ มีการสังเกต การตั้งสมมุติฐานเพื่ออธิบายสิ่งที่สังเกตมา การตรวจสอบสมมุติฐานกับข้อมูลที่สังเกตมา การตั้งสมมุติฐานใหม่เมื่อสมมุติฐานเดิมขัดกับข้อมูล นอกจากนี้เราพยายามให้เด็กๆมีความกล้าคิดและออกความเห็น และหวังว่าเมื่อโตไปจะไม่ถูกหลอกง่ายๆครับ
การทดลองสัปดาห์นี้ผมเริ่มด้วยกลใช้ “พลังจิต” ขยับดินสอ:
ผมยังไม่เฉลยว่าทำอย่างไร แต่หลังจากเรียนเสร็จแล้ว เด็กๆเข้าใจว่ากลทำงานอย่างไร
ต่อไปผมก็ทำการเป่าเทียนให้ดับ โดยมีสิ่งกีดขวาง ถ้าเราเป่าให้ลมวิ่งไปตามผิวโค้งนูนของสิ่งกีดขวาง ลมก็จะวิ่งโค้งไปตามผิวและสิ่งกีดขวางก็จะถูกดูดเข้าสู่สายลมด้วย ปรากฎการณ์นี้เรียกว่า Coandă effect (อ่านว่าควานด้า) เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ปีกเครื่องบินมีแรงยกให้บินได้ ทดลองดูได้แบบในคลิปครับ:
เราสามารถใช้สายน้ำแทนสายลมก็ได้ จะมีปรากฎการณ์เดียวกันและเห็นได้ชัด:
จากนั้นเด็กๆก็แยกย้ายกันทดลองเป่าลมไปตามผิวสิ่งกีดขวางกัน:
ก่อนหมดเวลา เด็กๆเดาได้ว่ากลพลังจิตขยับดินสอก็ทำงานโดยที่ผมเป่าลมเบาๆใส่พื้นโต๊ะเรียบ และสายลมวิ่งไปตามผิวโต๊ะไปชนดินสอนั่นเอง