อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่องความฝืดมหาศาล กลเชือกไม่ยอมตกพื้น และของเล่นตัวไต่ราว อยู่ที่นี่ครับ)

วันนี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรมครับ วันนี้เราดูวิดีโอเรื่องการสร้างหุ่นยนต์นก และเล่น Silly Putty แม่เหล็กกันครับ

ก่อนอื่นผมเอาคลิปนี้ให้เด็กๆดู โดยผมบรรยาย และหยุดภาพเป็นระยะ (คลิปนี้อาจารย์กิ๊ก ดร. กฤตยา จาก MUIC แนะนำให้ผมดูครับ):

เรื่องราวในคลิปนี้เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก คือทีมในเยอรมันพยายามสร้างหุ่นยนต์ที่บินเหมือนนกจริงๆซึ่งเป็นของที่มนุษย์พยายามทำมาหลายร้อยปีแต่ไม่สำเร็จจนกระทั่งปีที่แล้วนี่เอง

ที่ผ่านมาเด็กๆได้ทดลองทำเครื่องบินและเครื่องร่อนไปแล้ว และเขาก็เข้าใจแล้วว่าปีกของเครื่องบิน/เครื่องร่อนเหล่านั้นเป็นปีกที่อยู่คงที่ ไม่กระพือไปมาเหมือนนก แรงยกมาจากอากาศที่วิ่งผ่านปีก แต่ยังไม่มีใครสามารถสร้างสิ่งที่บินได้แบบนก ที่ขยับปีกและเปลี่ยนมุมการเคลื่อนที่ของปีกส่วนต่างๆจนกระทั่งทีมนี้ทำสำเร็จ  นอกจากการบินอันน่าทึ่งของหุ่นยนต์นกแล้ว เด็กๆได้เห็นความพยายามไม่ย่อท้อในการแก้ปัญหาต่างๆของทีมผู้สร้างก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญมากที่เด็กๆควรได้เรียนรู้ครับ

จากนั้นผมก็ให้เด็กดูคลิปของเล่นน่าสนใจอีกอันเรียกว่า Torofluxus ซึ่งสร้างจากเส้นโลหะสปริงที่เอามาร้อยกันเป็นรูปโดนัท ผมบอกเด็กๆว่าเราเคยได้เล่น Slinky ไปแล้วในอดีต ถ้ามีโอกาสหาเจ้าตัวนี้มาได้ จะเอามาเล่นกัน:

เจ้า Torofluxus เนี่ยมีคำอธิบายการทำงานของมันที่ http://danielwalsh.tumblr.com/post/20687530490/playing-with-a-flowing-torus ด้วยครับ

คลิปอันสุดท้ายก่อนที่เราจะเล่นกับของเล่นจริงๆ คือคลิปการพับกระดาษให้เป็น”เครื่องร่อน”ที่เราสามารถเลี้ยงให้ลอยอยู่ได้ในอากาศถ้าเรามีแผ่นกระดาษแข็งที่เราถือไปด้วยเดินไปด้วยครับ เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากสองสัปดาห์ที่แล้ว ที่เด็กๆได้เห็นเครื่องร่อนที่ทำจากโฟมบางเป็นพิเศษที่สามารถเลี้ยงให้ลอยได้จากลมที่ปะทะหน้าผากหรือฝ่ามือแล้วหักเหขึ้นด้านบนไปโดนปีกเครื่องร่อนครับ เรายังไม่สามารถตัดโฟมให้บางมากๆได้ เลยหาเอาแบบที่ใช้กระดาษบางๆพับก่อน ผมเปิดให้เด็กๆดูเฉพาะตอนแรกๆและตอนจบเท่านั้น ไม่ให้เขาเห็นรายละเอียดวิธีทำทั้งหมด ปรากฎว่าเด็กๆส่วนใหญ่พยายามพับกันเองกันใหญ่ตอนเขาพักหลังเลิกเรียน ทำให้ผมชื่นใจอย่างยิ่ง แม้ว่าผลยังไม่ค่อยดีเพราะเขาใช้กระดาษ A4 ซึ่งหนาเกินไปหน่อยก็ตาม แต่เราจะกลับมาทำกันใหม่ให้สำเร็จในอนาคตครับ:

ต่อจากนั้นผมก่องัดเอาของเล่นที่เราจะเล่นกันวันนี้ขึ้นมา ของเล่นที่ว่าคือ Silly Putty แบบใส่ผงเหล็กครับ ผมซื้อมาจาก Vat19 ที่ลิงค์นี้ เจ้า Silly Putty เนี่ยมันเป็นสารประกอบพวกซิลิโคนที่เราสามารถนวดมันเหมือนดินน้ำมัน ถ้าเรากดหรือดึงมันช้าๆมันจะอ่อนตัวเหมือนดินน้ำมันแต่สามารถยืดยาวได้เหมือนตังเม แต่ถ้าเราทุบมันหรือขว้างมันลงพื้น มันจะแข็งตัวและกระเด้งขึ้นมาเหมือนลูกยาง ถ้าเราฉีกมันเร็วๆมันจะขาดออกจากกันโดยที่รอยแตกจะเรียบๆเหมือนแก้วแตก ผมถามเด็กๆว่าเราเคยเห็นอะไรคล้ายๆอย่างนี้ไหม เด็กๆก็จำได้ว่าเคยเล่นแป้งข้าวโพดมาก่อนแล้ว จริงๆแล้วทั้งเจ้า Silly Putty และแป้งข้าวโพดเป็นของสารประกอบพวก Non-Newtonian ที่ความหนีดขึ้นกับแรงและความเร็วที่เราไปกดมัน อันที่เราเอามาเล่นกันวันนี้มีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่มันดึงดูดกับแม่เหล็กด้วยเพราะตัวมันมีผงเหล็กเล็กๆแทรกอยู่

ผมแจก Silly Putty และแม่เหล็กให้เด็กๆไปลองเล่นกัน เด็กๆก็ลองเอาไปยืดและปล่อยใส่พื้นให้กระเด้ง รวมถึงให้มันดูดแม่เหล็กจนดูเหมือนมันกลืนแม่เหล็กเข้าไปครับ ผมได้เอาโปรแกรม iMotion HD มาถ่ายทำหนัง Stop Motion (หลังจากเด็กๆได้เรียนรู้เรื่องการทำหนัง Stop Motion ไปแล้วด้วยความกรุณาของคุณพ่อป้อน ผู้กำกับก้านกล้วยเมื่อวันที่ 2 เมษาครับ) ถ่ายหนึ่งเฟรมทุกๆห้าวินาทีแล้วมาฉายกลับที่ 15 เฟรมทุกๆวินาที ทำให้ภาพเร็วขึ้น 75 เท่าครับ ได้ผลดังคลิปข้างล่างครับ:

อันนี้เป็นบรรยากาศในห้องเรียนของเราครับ:

ข้างล่างคือตัวอย่างภาพถ่ายบรรยากาศห้องเรียนและบันทึกเด็กๆครับ ภาพทั้งหมดอยู่ที่อัลบัมเต็มที่นี่ครับ