Category Archives: science

ความดันอากาศ จรวดหลอดกาแฟ เฮลิคอปเตอร์กระดาษ และการวิวัฒนาการ(ต่อ)

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่องอากาศร้อนเย็นสำหรับเด็กเล็ก การวิวัฒนาการสำหรับเด็กโต อยู่ที่นี่ครับ)

วันนี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนภูมิธรรม และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เรื่องความดันอากาศและของเล่นจรวดหลอดกาแฟสำหรับเด็กป.1-2 เรื่องการวิวัฒนาการสำหรับเด็กป.3-5 และของเล่นเฮลิคอปเตอร์กระดาษสำหรับเด็กอนุบาลสามครับ

ผมเริ่มคุยกับเด็กป1.และป.2 เรื่องอากาศว่าใครรู้จักดาวตกหรือผีพุ่งใต้บ้าง เด็กๆรู้จักและหลายคนก็เคยเห็นแล้ว ผมเลยถามว่ามันคืออะไร เด็กๆทำหน้างงๆ ผมจึงเล่าว่าในอวกาศมีก้อนหิน ก้อนน้ำแข็ง หรือก้อนโลหะวิ่งไปมาอยู่ เจ้าก้อนเหล่านี้เป็นของเหลือจากการเกิดของดาวเคราะห์ต่างๆ บางครั้งเจ้าก้อนเหล่านั้นก็ตกลงมาที่โลกเพราะโลกมีแรงดึงดูดที่เรียกว่าแรงโน้มถ่วงคอยดูดเจ้าก้อนเหล่านั้นเสมอ ถ้าก้อนเหล่านั้นวิ่งด้วยความเร็วพอดีๆ มันก็จะตกลงสู่โลกได้ (ถ้าวิ่งเร็วในทางเฉียงๆหน่อยก็อาจจะวิ่งโคจรรอบโลกได้ หรือวิ่งเฉียดโลกไปเลย) เวลามันตกสู่โลกมันจะชนกับอากาศที่อยู่รอบโลก ความเร็วที่สูงมากของมัน (หลายๆเท่าของความเร็วลูกปืน) จะอัดอากาศด้านหน้าของมันจนมีความร้อนสูงและอากาศเรืองแสงลุกเป็นไฟสว่างให้เราเห็นจากพื้นได้ ถ้ามันมีขนาดไม่ใหญ่ความร้อนก็อาจทำให้มันไหม้หายไปไม่ตกลงมาที่พื้น ถ้าขนาดใหญ่พอก็อาจตกลงมาที่พื้นได้ บางครั้งก็เกิดหลุมอุกกาบาตตรงที่มันตกลงมา

จากนั้นผมก็เอากระบอกฉีดยาพลาสติกขนาดใหญ่ออกมา อุดปากหลอดด้วยเทปผ้า แล้วกดปั๊มๆมันหลายๆครั้งแล้วให้เด็กๆจับ เพื่อแสดงว่าอากาศที่ถูกบีบอัดจะร้อนขึ้น ร้อนกว่ามือที่ผมจับหลอดฉีดยาไว้อย่างเห็นได้ชัด

ปั๊มหลอดฉีดยาแบบนี้ครับ
ปั๊มสักสิบครั้งแล้วให้เด็กจับทีละคน

เวลาเราปั๊มลมจักรยาน เราก็จะพบว่าตัวปั๊มร้อนขึ้นเพราะเวลาเราอัดอากาศ อากาศจะร้อนขึ้นครับ Continue reading ความดันอากาศ จรวดหลอดกาแฟ เฮลิคอปเตอร์กระดาษ และการวิวัฒนาการ(ต่อ)

อากาศร้อนเย็นสำหรับเด็กเล็ก การวิวัฒนาการสำหรับเด็กโต

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่องจุดบอดในดวงตาและภาพลวงตาอยู่ที่นี่ครับ)

วันนี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนภูมิธรรม และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เรื่องอากาศร้อนเย็นสำหรับเด็กอนุบาล ป.1 ป.2 และเรื่องการวิวัฒนาการสำหรับเด็กป.3 4 5 ครับ

สำหรับเรื่องอากาศ ผมถามเด็กๆว่าเรารู้สึกว่าลมพัดไหม ลมคืออากาศที่เคลื่อนตัว เรารู้สึกได้เพราะอากาศมีตัวตน มีน้ำหนัก คือแถวๆพื้นโลกจะมีน้ำหนักประมาณหนึ่งกิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (จริงๆประมาณ 1.275 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และผมพยายามให้เด็กเข้าใจโดยทำมือวาดว่าหนึ่งลูกบาศก์เมตรมันใหญ่แค่ไหน เมื่อเทียบกับน้ำจะพบว่าน้ำหนาแน่นกว่าอากาศประมาณ 800 เท่า คือน้ำจะมีน้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร)

เราอยู่บนผิวโลก เราใช้อากาศหายใจ อากาศที่อยู่รอบๆโลกเรียกว่าชั้นบรรยากาศ (Earth Atmosphere) ชั้นบรรยากาศของโลกมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับโลก คือมีอากาศสูงขึ้นไปจากพื้นโลกเพียง 100-200 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับขนาดโลกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12,000 กิโลเมตร ชั้นบรรยากาศจะหนาเพียงประมาณ 1% ของขนาดโลกเท่านั้น

ถ้าโลกมีขนาดเท่าลูกบอล ชั้นบรรยากาศจะหนาประมาณช่องที่ผมอ้าปากเครื่องวัดไว้ ห่างออกไปกว่านั้นอากาศจะบางมากจนเป็นสูญญากาศในที่สุด อากาศเกาะติดกับโลกได้ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก ดวงจันทร์ที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าจึงมีบรรยากาศเบาบางมากจนเรียกเป็นสูญญากาศ ดาวพฤหัสที่มีแรงโน้มถ่วงมากจึงมีชั้นบรรยากาศหนาแน่นและเยอะมากเมื่อเทียบกับโลก

แม้ว่าชั้นบรรยากาศจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับโลก แต่มันใหญ่มากเมื่อเทียบกับตัวเรา น้ำหนักของอากาศที่กดทับลงมาแถวๆพื้นโลกเทียบได้กับน้ำหนักสิบตันต่อตารางเมตรเลยทีเดียว (เทียบได้กับรถ 6-7 คันซ้อนๆกันกดลงมาในพื้นที่หนึ่งตารางเมตร หรือประมาณ 1 กิโลกรัมต่อตารางเซ็นติเมตร) Continue reading อากาศร้อนเย็นสำหรับเด็กเล็ก การวิวัฒนาการสำหรับเด็กโต

(ปลูกภูมิต้านทานการหลอกลวงด้วยเรื่อง)จุดบอดในดวงตาและภาพลวงตา

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่องวิดีโอหุ่นยนต์นกและถ่ายหนัง Silly Putty กลืนแม่เหล็ก อยู่ที่นี่ครับ)

เปิดเทอมใหม่แล้วครับ วันนี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนภูมิธรรม และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เรื่องจุดบอดในตาของเรา และภาพลวงตาต่างๆครับ

ทุกครั้งที่เริ่มเทอมใหม่ ผมจะพยายามคุยกับเด็กๆว่าเราต้องระมัดระวังที่จะเชื่อประสาทสัมผัสต่างๆของเราครับ เนื่องจากประสาทสัมผ้สเรามีข้อจำกัด และเรารับรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆด้วยการแปลผลของสมอง และสมองก็ถูกหลอกได้ง่าย คิดไปเองได้ง่าย ถ้าเราไม่ระวัง เราก็รับรู้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ถ้าเราสงสัยหรือไม่มั่นใจว่าเรารับรู้ได้ถูกต้องหรือเปล่า เราควรจะหาวิธีใช้อุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือมาวัดด้วยครับ จะเชื่อแต่ความรู้สึกหรือความคิดของเราเองไม่ได้  ผมหวังว่าในอนาคตเมื่อเด็กๆเห็นอะไรแปลกๆพิสดารเขาจะได้ไม่รีบเชื่ออะไรง่ายๆ แต่ต้องพยายามเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรจริงๆก่อน Continue reading (ปลูกภูมิต้านทานการหลอกลวงด้วยเรื่อง)จุดบอดในดวงตาและภาพลวงตา