Category Archives: สอนเด็กๆ

อัลตร้าซาวด์ดูเส้นเลือดที่คอและดูหัวใจเต้นกับเด็กประถมและกลถุงพลาสติกไม่รั่วสำหรับเด็กอนุบาล

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “คุยกับเด็กๆเรื่องอวัยวะ เครื่องมือส่องดูร่างกาย (Ultrasound, X-Ray, CT, MRI) และการจมการลอย” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เราได้เครื่องอัลตร้าซาวด์มาดูเส้นเลือดที่คอและดูหัวใจเต้นกับเด็กประถมและเล่นกลถุงพลาสติกไม่รั่วสำหรับเด็กอนุบาลครับ

โรงพยาบาลบางโพได้สนับสนุนการศึกษาวิทยาศาสตร์ของเด็กๆครับ ให้ยืมเครื่องอัลตร้าซาวด์ขนาดเล็กมาให้ดูอวัยวะภายในของเด็กๆกัน เพื่อต่อยอดการเรียนรู้สัปดาห์ที่แล้วที่เราพูดคุยกันเรื่องอวัยวะและอุปกรณ์ส่องดูร่างกายครับ ผมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะเครื่องราคาประมาณสองล้านบาทและส่วนหัวอ่าน ( หัวโพรบ, Probe) ก็เสียหายง่ายถ้าตกหรือกระทบกระเทือนมากไปครับ

ผมเอาหัวตรวจโพรบสองตัวให้เด็กๆดูครับ ตัวหนึ่งเขียนว่า 8L อีกตัวเขียนว่า 4C บอกเด็กๆว่า 8L แปลว่าสั่นด้วยความถี่ 8 ล้านครั้งต่อวินาทีหรือ 8 เมกาเฮิร์ตซ์ ส่วนอักษร L ย่อมาจาก Linear แปลว่าเป็นเส้นตรง (จะเห็นว่าหัวอ่านเป็นแท่งตรงๆ)  ส่วนเจ้า 4C แปลว่าสั่นด้วยความถี่ 4 ล้านครั้งต่อวินาทีหรือ 4 เมกาเฮิร์ตซ์ ส่วนอักษร C ย่อมาจาก Convex แปลว่าเป็นโค้งๆ (หัวอ่านมันโค้งนูนครับ)

หัวโพรบครับ (Probe) ใช้ส่งและรับคลื่นเสียงความถี่สูง

ผมเล่าต่อไปว่าความถี่เสียงที่สูงจะสามารถตรวจจับรายละเอียดได้ดีกว่า แต่จะหมดแรงเมื่อเข้าไปในร่างกายในระยะไม่ลึกเท่าไร ส่วนความถี่ต่ำจะตรวจจับรายละเอียดได้น้อยกว่าแต่เข้าไปในร่างกายได้ลึกกว่า ดังนั้นเราจะใช้เจ้า 8L มาดูอวัยวะที่ไม่ลึกนัก (คือดูเส้นเลือดแดงที่ลำคอ) และจะใช้ 4C ดูอวัยวะที่ลึกเข้าไป เช่นในท้องและหัวใจ Continue reading อัลตร้าซาวด์ดูเส้นเลือดที่คอและดูหัวใจเต้นกับเด็กประถมและกลถุงพลาสติกไม่รั่วสำหรับเด็กอนุบาล

คุยกับเด็กๆเรื่องอวัยวะ เครื่องมือส่องดูร่างกาย (Ultrasound, X-Ray, CT, MRI) และการจมการลอย

 

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “คุยกับเด็กๆเรื่องตา ภาพลวงตา เซลล์ร็อดและเซลล์โคน” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เราคุยกันเรื่องอวัยวะสำหรับเด็กประถมเล็ก เครื่องมือส่องดูร่างกายสำหรับเด็กประถมโต และการจมลอยสำหรับเด็กอนุบาลครับ

ก่อนอื่นผมเอารูปถ่ายลูกสาวผม(ธัชธีญาและธัญญา)ตอนที่พวกเธอยังอยู่ในท้องแม่มาให้เด็กๆดูครับ เราเห็นหน้าตาเด็กด้วยอุปกรณ์สร้างภาพด้วยอุลตร้าซาวด์ (Ultrasound Imaging หรือ Ultrasonography) มีภาพธัชธีญาตอน 12 และ 25 สัปดาห์ และภาพธัญญาตอน 23 สัปดาห์

ในภาพเราจะเห็นหน้าตาของเด็ก แขน ขา และมองเห็นกระดูกในร่างกายด้วยในบางภาพ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหรือไม่รู้ว่าภาพมาได้อย่างไร Continue reading คุยกับเด็กๆเรื่องอวัยวะ เครื่องมือส่องดูร่างกาย (Ultrasound, X-Ray, CT, MRI) และการจมการลอย

คุยกับเด็กๆเรื่องตา ภาพลวงตา เซลล์ร็อดและเซลล์โคน

อัลบั้มภาพการเรียนการสอนอยู่ที่นี่ครับ

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นรูปหรือวิดีโอ เข้าไปดูที่เว็บ https://witpoko.com/ นะครับ ส่วนใหญ่ถ้าอ่านในเมล์จะไม่เห็นวิดีโอครับ

(คราวที่แล้วเรื่อง “ใครๆก็ชอบอุกกาบาต วัดปริมาตรมือ และเล่นกับเสียง” ครับ)

วันอังคารที่ผ่านมานี้ผมไปสอนเด็กๆกลุ่มบ้านเรียนปฐมธรรม กลุ่มบ้านเรียนเฟิร์น และอนุบาลบ้านพลอยภูมิครับ วันนี้เราคุยกันเรื่องตา เซลล์รับแสง (เซลล์ร็อดและเซลล์โคน) และภาพลวงตาครับ

เราเริ่มกันด้วยการดูภาพลูกตาและส่วนประกอบต่างๆ โดยเนื้อหาตอนเริ่มต้นจะคล้ายๆกับที่พูดไปปีที่แล้ว จึงขอยกที่บันทึกปีที่แล้วมาที่นี่นะครับ วันนี้ที่ทดลองเพิ่มเติมก็คือการทำให้เซลล์รับแสงในตาล้าให้เราเห็นภาพลวงตาดังที่จะกล่าวต่อไปครับ

ก่อนอื่นผมก็คุยเรื่องตาของเราก่อนครับ เรามองเห็นได้โดยแสงวิ่งไปกระทบกับจอรับแสง (เรตินา, Retina) ที่ด้านหลังข้างในลูกตา แต่บังเอิญตาของคนเราวิวัฒนาการมาโดยมีเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่บนผิวของจอรับแสง เมื่อจะส่งสัญญาณไปตามเส้นประสาทไปยังสมอง เส้นประสาทจะต้องร้อยผ่านรูอันหนึ่งที่อยู่บนจอรับแสง รอบบริเวณรูนั้นจะไม่มีเซลล์รับแสง ดังนั้นถ้าแสงจากภายนอกลูกตาไปตกลงบนบริเวณนั้นพอดี ตาจะไม่สามารถเห็นแสงเหล่านั้นได้ บริเวณรูนั้นจึงเรียกว่าจุดบอด หรือ Blind Spot นั่นเอง

จุดบอดหรือ Blind spot อยู่ตรงที่เส้นประสาทรวมกันเป็นเส้นลากจากภายในลูกตาออกมาด้านหลัง ไปยังสมองในที่สุด
(ภาพจาก http://transitionfour.wordpress.com/tag/blind-spot/)
ตาของปลาหมึกทั้งหลายจะไม่มีจุดบอดแบบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างเราครับ เนื่องจากเส้นประสาทของปลาหมึกอยู่หลังจอรับแสง จึงไม่ต้องมีการร้อยผ่านรูในจอรับแสงแบบตาพวกเรา
วิธีดูว่าเรามีจุดบอดก็ทำได้ง่ายมากครับ แค่เขียนตัวหนังสือตัวเล็กๆบนแผ่นกระดาษสองตัว ให้อยู่ในแนวบรรทัดเดียวกันแต่ห่างกันสักหนึ่งฝ่ามือ จากนั้นถ้าเราจะหาจุดบอดในตาขวา เราก็หลับตาซ้าย แล้วใช้ตาขวามองตัวหนังสือตัวซ้ายไว้นิ่งๆ จากนั้นเราก็ขยับกระดาษเข้าออกให้ห่างจากหน้าเราช้าๆ ที่ระยะๆหนึ่งเราจะไม่เห็นตัวหนังสือตัวขวา นั่นแสดงว่าแสงจากตัวหนังสือตัวขวาตกลงบนจุดบอดเราพอดี

ถ้าจะหาจุดบอดในตาซ้าย เราก็ทำสลับกับขั้นตอนสำหรับตาขวา โดยเราหลับตาขวาแล้วใช้ตาซ้ายมองตัวหนังสือตัวขวาไว้นิ่งๆ อย่ากรอกตาไปมา แล้วเราก็ขยับกระดาษให้ใกล้ไกลหน้าเราช้าๆ ที่ระยะหนึ่งตัวหนังสือตัวซ้ายจะหายไปเพราะแสงจากหนังสือตัวซ้ายตกลงบนจุดบอดตาซ้ายของเราพอดี

ถ้าท่านไม่มีกระดาษลองใช้ตัวหนังสือข้างล่างนี่ก็ได้ครับ แต่อาจต้องขยับหน้าเข้าใกล้จอคอมพิวเตอร์หน่อย:
A                                                                                              B
 
 
ลองหลับตาซ้ายแล้วใช้ตาขวามองตัว A ดู ตอนแรกท่านจะเห็นตัว B ด้วย แต่ถ้าขยับหน้าเข้าใกล้จอคอมพิวเตอร์ที่ระยะที่เหมาะสม อยู่ๆตัว B ก็จะหายไป และท่านก็จะเห็นพื้นขาวแถวๆนั้นแทน
 
ที่น่าสนใจก็คือสมองเราจะมั่วเองขึ้นมาเลยว่าเราควรจะเห็นอะไรตอนที่แสงจากตัวอักษรตกลงบนจุดบอดพอดี แทนที่จะเห็นจุดดำๆเพราะไม่มีแสงตรงจุดบอด สมองวาดรูปให้เสร็จเลยว่าควรจะเห็นสีพื้นข้างหลังของตัวอักษร

Continue reading คุยกับเด็กๆเรื่องตา ภาพลวงตา เซลล์ร็อดและเซลล์โคน